แบบจัดทำแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม
กองทุนหลักประกันสุขภาพเทศบาลนครรังสิต รหัส กปท. ...L6983 อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 |
--------------------------------------------------------------------------- |
ตามประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์เพื่อสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินงานและบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ พ.ศ.2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 16 (2) “ให้พิจารณาอนุมัติโครงการ หรือกิจกรรม ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกองทุนตามข้อ 10”
อาศัยอำนาจของประกาศ ฯ ข้อ 10 “เงินกองทุนหลักประกันสุขภาพตามข้อ 7 วรรคหนึ่ง ให้ใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมเป็นค่าใช้จ่ายตามแผนงาน โครงการ หรือกิจกรรม ที่คณะกรรมการกองทุนอนุมัติ” จึงได้จัดทำแผนงาน โครงการ หรือกิจกรรม ประจำปีงบประมาณ 2566 โดยมีรายละเอียด ดังนี้ |
|||
1.ชื่อโครงการ ป้องกันและดูแลช่วยเหลือเยาวชนในสถานศึกษาและชุมชน |
|||
2.ชื่อ หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี |
|||
3.หลักการเหตุผล ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาสำคัญที่มีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน และความมั่นคงของประเทศ ที่ต้องดำเนินการแก้ไขอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ที่ทุกภาคส่วนต้องมีส่วนร่วมทั้งด้านการป้องกัน การปราบปราม และการบำบัดรักษาฟื้นฟู ผู้ติดยาเสพติด ป้องกันการเสพติดซ้ำ ช่วยฟื้นฟูให้กลับเป็นคนดี เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่า สร้างประโยชน์และไม่เป็นภาระของสังคม อย่างไรก็ตามยังพบว่าผู้ติดยาเสพติดมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญพบว่าปัญหายาเสพติดมีการแพร่ระบาดมากขึ้นในกลุ่มเด็กและเยาวชน ที่มีอายุอยู่ในช่วง ๑๒ - ๑๗ ปี ซึ่งเด็กและเยาวชนเหล่านี้คืออนาคตของชาติ เป็นวัยที่มีความเสี่ยงสูงต่อการใช้ยาเสพติดเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพร่างกายที่เริ่มก้าวเข้าสู่วัยรุ่น เป็นช่วงของการปรับตัว มีความอยากรู้อยากลอง มีความเป็นตัวของตัวเอง เชื่อมั่นตัวเอง ซึ่งหากสามารถช่วยให้เยาวชนกลุ่มนี้ก้าวผ่านช่วงเวลานี้ไปได้อย่างเหมาะสม เด็กก็จะเจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่เข้มแข็ง ใช้ความสามารถและสติปัญญาได้อย่างเต็มศักยภาพ ในทางตรงกันข้าม หากเยาวชนกลุ่มนี้ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด จะมีผลทำให้สมองถูกทำลายอย่างมาก มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดอาการทางจิตประสาทอย่างถาวรในอนาคต จนเป็นปัญหาสังคมและประเทศชาติจนยากที่จะแก้ไขในการแก้ไขปัญหายาเสพติดนั้นกลุ่มที่สำคัญคือกลุ่มเยาวชน ซึ่งองค์ประกอบสำคัญของการแก้ปัญหาคือครอบครัว ครูมีบทบาทสำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในกลุ่มเยาวชนทั้งเรื่องการให้ข้อมูลความรู้ เจตคติต่อการยอมรับและให้โอกาสต่อความแตกต่างของเยาวชนแต่ละคนที่อาจผิดพลาดไปใช้ยาเสพติด ครูต้องสามารถสังเกต เฝ้าระวัง คัดกรองเยาวชนกลุ่มเสี่ยง หรือกลุ่มเริ่มเสพได้อย่างถูกต้อง และสามารถรีบให้การช่วยเหลือเยาวชนที่มีปัญหายาเสพติดในระยะต้นๆ ได้ ก่อนที่จะมีการเสพติดที่รุนแรงมากขึ้น และสามารถกลับมาใช้ชีวิตในสังคมโรงเรียน สามารถเรียนหนังสือได้ตามปกติต่อไปได้ และยังรวมไปถึงในชุมชนด้วย ข้อมูลสถิติผู้เข้ารับการบำบัดรักษายาเสพติดของสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี ในปี 2562 , 2563 และ 2564 จำนวน 5,638 ,5,188 และ 4,140 และเป็นกลุ่มเยาวชน ร้อยละ 11.23 ,9.58 และ9.28 ตามลำดับ สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี ในฐานะหน่วยงานหลักด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาผู้เสพผู้ติดยาเสพติด ได้ดำเนินการโครงการพัฒนาต้นแบบในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดสำหรับเยาวชน ตั้งแต่ปี ๒๕๖๐ จนได้รูปแบบการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดสำหรับเยาวชน ซึ่งจะดำเนินการพัฒนาเป็นระบบการดูแลช่วยเหลือเยาวชนต่อไป ทางสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี จึงได้ดำเนินโครงการ ป้องกันและการดูแลช่วยเหลือเยาวชนในสถานศึกษา ขึ้น |
|||
4.วัตถุประสงค์
4.1 สร้างความร่วมมือในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างบูรณาการในสถานศึกษาระหว่าง บ้าน โรงเรียน ชุมชน และกลุ่มเยาวชน 4.2 สร้างแกนนำเยาวชนที่จะเป็นกำลังที่เข้มแข็งในการป้องกันตนเอง และช่วยเหลือเพื่อนๆ ที่อาจมีโอกาสพลาดไปใช้ยาเสพติด แบบเพื่อนช่วยเพื่อน 4.3 ครูมีความสามารถในการสังเกตอาการ การคัดกรอง และการให้การช่วยเหลือเยาวชนที่มีความเสี่ยงต่อการใช้ยาเสพติดหรือเริ่มมีพฤติกรรมใช้ยาเสพติดในระยะต้นๆ และสามารถสร้างแรงจูงใจ ช่วยให้เกิดความคิดและเปลี่ยนพฤติกรรมเลิกใช้ยาเสพติดในที่สุด 4.4 เยาวชนที่มีปัญหาเริ่มใช้ยาเสพติดได้รับการคัดกรอง ให้คำแนะนำ สร้างแรงจูงใจ ติดตามช่วยเหลือจนสามารถเลิกใช้ยาเสพติดได้อย่างต่อเนื่อง และป้องกันการเสพติดซ้ำ |
|||
5. วิธีดำเนินการ
ขั้นเตรียมการ - กิจกรรมที่ ๑. ประชุมเชิงปฏิบัติการสร้างความร่วมมือและร่วมจัดทำแผนปฏิบัติการในระดับผู้บริหารของสถานศึกษา ร่วมกับสมาคมผู้ปกครอง ผู้นำชุมชน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ขั้นดำเนินการ - กิจกรรมที่ ๒. ประชุม/อบรมให้ความรู้แก่ครอบครัวผู้ปกครองกลุ่มเป้าหมาย x 2 วัน (จำนวน 12 ชั่วโมง) (ติดตามการนำไปใช้) (กลุ่มเป้าหมาย ครอบครัวผู้ปกครอง) - กิจกรรมที่ 3. อบรมให้ความรู้แก่เยาวชน จำนวน 18 ชั่วโมง เพื่อสร้างความตระหนักรู้ ทัศนคติของเยาวชนต่อยาเสพติด และสร้างแกนนำเยาวชนเพื่อเป็นเครือข่ายป้องกันยาเสพติดในห้องเรียน และติดตามการนำไปใช้ - กิจกรรมที่ 4. อบรมความรู้ แก่ ครู ก.ในเรื่องการสังเกตอาการ การเฝ้าระวัง การคัดกรอง การให้คำแนะนำช่วยเหลือเบื้องต้น, การใช้เครื่องมือ เทคนิค วิธีการของ Design Thinking และCognitive Behavioral Techniques ในการสื่อสาร ให้คำปรึกษาและ ออกแบบกิจกรรม เพื่อป - กิจกรรมที่ 5 อบรมให้ความรู้ เสริมสร้างแรงจูงใจ เด็กและเยาวชน ในการให้คำปรึกษา การคัดกรองและบำบัดช่วยเหลือเยาวชนที่พลาดไปเสพยาเสพติดและติดตามต่อเนื่องจนครบ 3 เดือน - กิจกรรมที่ ๖ ประชุมเชิงปฏิบัติการในการติดตามประเมินผลความสำเร็จของโครงการ สรุปและรายงานผลการจัดกิจกรรม ผู้รับผิดชอบโครงการรายงานผลและปัญหา อุปสรรคในการดำเนินงานให้คณะกรรมการกองทุนหลักประกันสุขภาพเทศบาลนครรังสิตทราบ เมื่อเสร็จสิ้นโครงการ |
|||
6. กลุ่มเป้าหมาย และกิจกรรม
6.3 กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน จำนวน 350 คน -เด็กและเยาวชน ช่วงอายุ 10 – 20 ปี ในโรงเรียนประถม/มัธยม/สถานศึกษา /ชุมชน จำนวน 200 คน -ครอบครัว /ผู้ปกครองของเด็กและเยาวชน ช่วงอายุ 10 – 20 ปี ในโรงเรียนประถม/มัธยม/สถานศึกษา/ชุมชน จำนวน 50 ครอบครัว -ครูของเด็กและเยาวชน ช่วงอายุ 10 – 20 ปี ในโรงเรียนประถม /มัธยม/สถานศึกษาในโรงเรียนเป้าหมาย จำนวน 100 คน กิจกรรม : 8. การป้องกันและลดปัญหาด้านสารเสพติด/ยาสูบ/เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นหน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มประชาชน ที่มีสิทธิขอรับงบประมาณ ( ตามประกาศ ฯ พ.ศ. 2565 ข้อ 4 ) 7.1.3 หน่วยงานสาธารณสุขอื่นของรัฐ เช่น สสอ. ประเภทการสนับสนุน( ตามประกาศคณะกรรมการหลักประกันฯ พ.ศ. 2561 ข้อ 10 ) 7.2.1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข [ข้อ 10(1)] กลุ่มเป้าหมายหลัก 7.3.3 กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมายหลัก 8. การป้องกันและลดปัญหาด้านสารเสพติด/ยาสูบ/เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แผนสุขภาพ ปัญหายาเสพติด |
|||
7. ระยะเวลาดำเนินการ เริ่มวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 สิ้นสุด 15 กันยายน 2566 |
|||
8. สถานที่ดำเนินการ สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี และโรงเรียนในเขตเทศบาลนครรังสิต |
|||
9. งบประมาณ
จากงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพเทศบาลนครรังสิตจำนวน 101,400.00 บาท รายละเอียด ดังนี้ 1.ประชุมเชิงปฏิบัติการสร้างความร่วมมือและร่วมจัดทำแผนปฏิบัติการในระดับผู้บริหารของสถาน ศึกษา ร่วมกับสมาคมผู้ปกครอง เจ้าหน้าที่สาธารณสุข (๑ วัน ) รวมเป็นเงิน 0.00 บาท 2. ประชุม/อบรมให้ความรู้แก่ครอบครัวผู้ปกครองกลุ่มเป้าหมาย x 2 วัน (และติดตามการนำไปใช้) - ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม 50คนๆละ35บาทx2มื้อx2วัน เป็นเงิน 7,000.00 บาท - ค่าอาหารกลางวันและเครื่องดื่มของผู้เข้าร่วมประชุม 50คนๆละ75บาทx2วัน เป็นเงิน 7,500.00 บาท - ค่าสมนาคุณวิทยากรบรรยายภาครัฐ (600บาทx1ช.ม.) เป็นเงิน 600.00 บาท - ค่าสมนาคุณวิทยากรกลุ่มภาครัฐ (600บาทx5ช.ม.x2คน) เป็นเงิน 6,000.00 บาท รวมเป็นเงิน 21,100.00 บาท 3. อบรมให้ความรู้แก่เยาวชน จำนวน 18 ชั่วโมง เพื่อสร้างความตระหนักรู้ ทัศนคติของเยาวชน ต่อยาเสพติด และสร้างแกนนำเยาวชนเพื่อเป็นเครือข่ายป้องกันยาเสพติดในห้องเรียน และติดตามการนำไปใช้ - ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม 50คนๆละ35บาทx2มื้อx3วัน เป็นเงิน 10,500.00 บาท - ค่าอาหารกลางวันและเครื่องดื่มของผู้เข้าร่วมประชุม 50คนๆละ75บาทx3วัน เป็นเงิน 11,250.00 บาท - ค่าสมนาคุณวิทยากรบรรยายภาครัฐ (600บาทx1ช.ม.) เป็นเงิน 600.00 บาท - ค่าสมนาคุณวิทยากรกลุ่มภาครัฐ (600บาทx5ช.ม.x2คน) เป็นเงิน 6,000.00 บาท รวมเป็นเงิน 28,350.00 บาท 4. อบรมความรู้ แก่ ครูก.(บุคลากรสาธารณสุข /ครู) ตามคู่มือในเรื่องการสังเกต อาการ การเฝ้าระวัง การคัดกรอง การให้คำแนะนำช่วยเหลือเบื้องต้น (BA, BI) การใช้เครื่องมือ เทคนิค วิธีการของ Design Thinking และCognitive Behavioral Techniques ในการสื่อสาร ให้คำปรึกษา และ ออกแบบกิจกรรม เพื่อป้องกัน และแก้ไขปัญหาพฤติกรรมในเด็กวัยรุ่น และ และการติดตามดูแล ช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง และประเมินผลติดตามการนำไปประยุกต์ใช้ - ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม 50คนๆละ35บาทx2มื้อx2วัน เป็นเงิน 7,000.00 บาท - ค่าอาหารกลางวันและเครื่องดื่มของผู้เข้าร่วมประชุม 50คนๆละ75บาทx2วัน เป็นเงิน 7,500.00 บาท - ค่าสมนาคุณวิทยากรบรรยายภาครัฐ (600บาทx1ช.ม.) เป็นเงิน 600.00 บาท - ค่าสมนาคุณวิทยากรกลุ่มภาครัฐ (600บาทx5ช.ม.x2คน) เป็นเงิน 6,000.00 บาท - ค่าวัสดุอุปกรณ์และค่าใช้จ่ายอื่นๆ 50คนx50บาท เป็นเงิน 2,500.00 บาท รวมเป็นเงิน 23,600.00 บาท 5. อบรมให้ความรู้ เสริมสร้างแรงจูงใจ เด็กและเยาวชน ในการให้คำปรึกษา การคัดกรองและบำบัดช่วยเหลือเยาวชนที่พลาดไปเสพยาเสพติดและติดตามต่อเนื่องจนครบ 3 เดือน - ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม 50คนๆละ35บาทx2มื้อx3วัน เป็นเงิน 10,500.00 บาท - ค่าอาหารกลางวันและเครื่ิองดื่มของผู้เข้าร่วมประชุม 50คนๆละ75บาทx3วัน เป็นเงิน 11,250.00 บาท - ค่าสมนาคุณวิทยากรบรรยายภาครัฐ (600บาทx1ช.ม.) เป็นเงิน 600.00 บาท - ค่าสมนาคุณวิทยากรกลุ่มภาครัฐ (600บาทx5ช.ม.x2คน) เป็นเงิน 6,000.00 บาท รวมเป็นเงิน 28,350.00 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 101,400.00 บาท |
|||
10. ตัวชี้วัด / ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1. ร้อยละ80 ของครูและนักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมมีความรู้และความตระหนักถึงโทษพิษภัยของยาเสพติดได้อย่างถูกต้อง 2. ร้อยละ 90 ของเยาวชนที่มีปัญหาติดยาเสพติดได้รับการคัดกรอง จูงใจและการให้คำแนะนำดูแลช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง 3. ร้อยละ 80 ของเยาวชนที่มีปัญหาติดยาเสพติดได้รับการให้คำแนะนำดูแลช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องจนครบ 3 เดือน 4. ร้อยละ 80 ของบุคลากรสาธารณสุข ครู ครอบครัว ประชาชน ได้รับความรู้ ทักษะ การคัดกรอง บำบัดและติดตามในชุมชน |
|||
11. คำรับรองความซ้ำซ้อนของงบประมาณ
ข้าพเจ้า นางลัดดา ขอบทอง หน่วยงาน สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี ในฐานะของผู้เสนอแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม ขอรับรองว่า แผนงาน/โครงการ/กิจกรรม ที่เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนหลักประกันสุขภาพ ในครั้งนี้ ✓ ไม่ได้ซ้ำซ้อนกับงบประมาณที่ได้รับจากแหล่งอื่น ✓ สอดคล้องกับแผนสุขภาพชุมชน ของ กปท. ✓ รับทราบถึงกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ และวิธีการดำเนินงานตามประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์เพื่อสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินงานและบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ พ.ศ.2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม แล้ว |
|||
นายสรายุทธ์ บุญชัยพานิชวัฒนา ( ประธานเสนอโครงการ ) ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสถาบันฯ |
|||
|